อินโดนีเซียเผยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทะลุ 154,000 ราย สูงสุดในอาเซียน

กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 5,808 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 5,986,830 ราย ซึ่งสูงเป็นที่ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รองจากเวียดนาม

ขณะนี้ การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ลุกลามไปทั้ง 34 จังหวัดของอินโดนีเซีย

ส่วนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 122 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 154,343 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน

เวียดนามติดโควิดวันเดียว 120,000 ยอดรวมเกือบ 8,600,000 สูงสุดในอาเซียน

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 120,000 ราย ส่งผลให้เวียดนามมียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 8,599,751 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) หลังจากที่อินโดนีเซียครองอันดับประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในอาเซียนก่อนหน้านี้

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ระดับ 42,145 ราย

 

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานและตรวจร่างกายก่อนเริ่มงาน

ราคาสบายกระเป๋า สะดวก รวดเร็ว

แพ็กเกจที่หลากหลาย คุ้มค่า

ถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา ไม่ต้องรอคิวหลายขั้นตอน ดูผลออนไลน์ได้

คำนวณค่าใช้จ่ายก่อนรับบริการได้ ตอบไว ตอบเร็ว

มั่นใจในคุณภาพบริการ เป็นกันเอง อธิบายชัดเจน

ราคาสบายกระเป๋า พร้อมช่วยเหลือหลังรับบริการ

Tags :: ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน,ตรวจร่างกายก่อนเริ่มงาน,ตรวจสุขภาพร่างกายก่อนเริ่มงาน

กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เผยทิศทางการลงทุนปี 2022 ผ่านมุมมองกูรูชั้นนำ ตอกย้ำเป้าหมายสู่การเป็น "Investment Wealth Advisory Bank"

กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ (KRUNGSRI EXCLUSIVE) ที่สุดของเอกสิทธิ์การเงินและไลฟ์สไตล์ที่ดูแลรอบด้านของชีวิตอย่างต่อเนื่อง มุ่งยกระดับเป็น "ธนาคารที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการคำแนะนำการลงทุน" ด้วยมาตรฐานระดับโลก โดยปีนี้กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ปีที่ 11 และยังคงส่งความห่วงไม่เคยห่างทั้งเรื่องการเงินและไลฟ์สไตล์ จัดงานสัมมนา "KRUNGSRI EXCLUSIVE Investment Outlook 2022 : Assessing the Path Ahead" โดยขนทัพกูรูด้านเศรษฐกิจและการลงทุนทั้งจากในกรุงศรี กรุ๊ป สะท้อนความร่วมมือในการส่งมอบองค์ความรู้ด้านการลงทุนในรูปแบบ "ONE Krungsri Investment View" พร้อมด้วยพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึง 15 ท่าน มาให้ข้อมูลผ่านหน้าจอเรื่องการปรับพอร์ตให้มั่งคั่งในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น สภาพคล่องขาลง และยังดูแลลูกค้าคนพิเศษอย่างต่อเนื่องโดยได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก

วิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า ด้วยความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่สะท้อนความเป็น "Investment Wealth Advisory Bank" หรือธนาคารที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการคำแนะนำการลงทุน เป็นที่มาของงานสัมมนาออนไลน์ครั้งสำคัญในช่วงต้นปี KRUNGSRI EXCLUSIVE Investment Outlook 2022 : Assessing the Path Ahead ที่มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการลงทุน โดยรวบรวมกูรูด้านการเงินและการลงทุนมาแชร์ข้อมูลวิเคราะห์เจาะลึกทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2565 ทั้งจากกรุงศรีและพันธมิตรระดับโลกอย่าง BlackRock ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์และบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนได้อย่างเหมาะสมกับสภาวะการตลาด เป็นการเพิ่มมิติด้านการบริการผ่านการส่งมอบความรู้แบบเจาะลึก เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ในฐานะที่ปรึกษาการเงินและการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมเอกสิทธิ์ด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ รวมทั้งผลักดัน กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ สู่การเป็นผู้ให้บริการด้านการลงทุนที่ครบวงจร"

"นอกจากความรู้จากพันธมิตรและเครือข่ายระดับโลกจากงานสัมมนาครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีแล้ว กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ยังเตรียมจัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อที่น่าสนใจ สะท้อนสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีเป้าหมายการลงทุนต่างกัน สำหรับในด้านผลิตภัณฑ์ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ได้เตรียมคัดสรรผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนมานำเสนอให้กับลูกค้าอย่างหลากหลาย สอดคล้องกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น สินทรัพย์นอกตลาด (Private Asset) สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG หลังจากปีที่ผ่านมา กรุงศรีประสบความสำเร็จในหลายผลิตภัณฑ์ เช่น 'กองทุนเปิดกรุงศรีโกล.คอร์อโลเคชั่น (KFCORE)' กองทุนที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือกับ BlackRock เพื่อลูกค้ากรุงศรีโดยเฉพาะ ซึ่งทำผลตอบแทนนับตั้งแต่ตั้งกองทุนได้มากกว่า 7% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) กองทุนส่วนบุคคลตราสารเงินฝาก Hattha Bank อายุ 12 เดือน ซึ่งมีประมาณการผลตอบแทน 3.10 - 3.30% ต่อปี สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศไทยหลายเท่า และกองทุนเปิดกรุงศรี Finnoventure PE Y2033 - ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFFPVE-UI) เพื่อเข้าถึงธุรกิจสตาร์ทอัพชั้นนำในอาเซียน ผ่าน Finnoventure Private Equity Trust I กองทุนสตาร์ทอัพแรกของไทย บริหารโดย กรุงศรี ฟินโนเวต (Krungsri Finnovate) โดยทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี" นายวิน กล่าวเพิ่มเติม

กนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมต่อว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการดูแลลูกค้าคนสำคัญ พร้อมพัฒนาระบบการให้บริการที่ดีที่สุดสู่การเป็นธนาคารที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการคำแนะนำด้านการลงทุน โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ในการสร้างสรรค์และนำเสนอที่สุดของเอกสิทธิ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายจากประสบการณ์ 10 ปี ที่แบรนด์เข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงเวลาที่ต้องรักษาระยะห่างผ่านงานสัมมนาทางการเงินแบบนิวนอร์มอล พร้อมคัดสรรชุดอาหารว่างจากร้าน Hong Bao (หงเปา) จัดส่งให้ลูกค้าคนสำคัญถึงบ้าน เพื่อมอบความประทับใจและการดูแลเป็นพิเศษที่จะเติมเต็มประสบการณ์ในการสัมมนาครั้งนี้ให้สมบูรณ์แบบ เพราะกรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เชื่อว่าความสุขคือผลตอบแทนที่มีค่าที่สุดของชีวิตค่ะ"

ร่วมสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายที่คัดสรรมาให้ลูกค้าคนสำคัญตลอดทั้งปี
ให้กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เป็นผู้ดูแลทุกเรื่องการเงินของคุณ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ได้ที่ www.krungsri .com หรือ LINE @krungsriexclusive

เกี่ยวกับ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ
บริการพิเศษทางการเงินสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินฝาก/เงินลงทุน หรือชำระเบี้ยประกันชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยเอกสิทธิ์ที่ได้รับจะพิเศษยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินฝาก/เงินลงทุนย้อนหลัง 6 เดือนเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือซื้อประกันชีวิตรวม 5 แสนบาทขึ้นไปในปีปฏิทินเดียวกัน ภายใต้ชื่อผู้เอาประกันเดียวกัน

กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ได้รวมผลิตภัณฑ์การเงินและการลงทุน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญซึ่งเปี่ยมด้วยประสบการณ์ที่จะช่วยให้เรื่องเงินของคุณเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งเอกสิทธิ์เหนือระดับต่าง ๆ ที่คัดสรรมาเพื่อเติมเต็มความพิเศษให้กับทุกด้านของชีวิต

ก.ล.ต.โดดขวาง ใช้ Cryptocurrency เป็น Means of Payment ไม่ได้นะ !!
 
แม้ว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่เรามักจะเห็นว่ามีร้านค้าและบริษัทมากมายประกาศรับชำระค่าสินค้าและบริการ ด้วย Cryptocurrency ไม่ว่าจะเป็นทั้งร้านกาแฟ ร้านชาบู หรือแม้แต่คอนโดฯ ต่าง ๆ ที่ยอมให้ลูกค้าชำระค่าส่วนกลางด้วย Cryptocurrency ได้ด้วย

แต่ล่าสุดทาง ก.ล.ต. ก็ได้มีการฟันธงออกมาแล้วว่าจะไม่สนับสนุนในการนำ Cryptocurrency มาชำระค่าสินค้าหรือบริการ หรือที่เรามักเรียกว่า "Means of Payment" ด้วยการออกกฎเกณฑ์มาขัดขวางการทำธุรกรรมดังกล่าว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามตามมามากมายว่าห้างร้านที่เคยเปิดรับชำระค่าสินค้าด้วย Cryptocurrency แล้ว ต้องทำอย่างไร และถ้าห้างร้านตั้งราคาเป็นหน่วย Cryptocurrency แล้วลูกค้าจะยังจ่ายเป็นคริปโทฯได้หรือไม่ แล้วมีเหรียญไหน หรือบริษัทใด องค์กรใดที่เข้าข่ายต้องเปลี่ยนแปลงบ้าง

ทั้งนี้ คาดว่าสำนักงาน ก.ล.ต.จะออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งสายคริปโทฯอย่างเรา ๆ คงต้องรอติดตามกัน

*แบงก์ชาติปรับเกณฑ์เอื้อ Fintech แต่จำกัด Cryptocurrency

หลังจากที่ ก.ล.ต. ประกาศเรื่อง Means of Payment ไปแล้ว ตามมาติด ๆ กันทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ประกาศปรับเกณฑ์ยกเลิกเพดานการลงทุนของสถาบันการเงินในธุรกิจ "FinTech" จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ไม่เกิน 3% แต่ในขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มเกณฑ์ห้ามไม่ให้สถาบันการเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency มากกว่า 3% ของเงินกองทุน

ทั้งนี้ เงินกองทุนของสถาบันการเงิน ก็คือส่วนที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินนั้น ๆ ซึ่งตามเกณฑ์ของ ธปท.กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องมีเงินกองทุนไม่ต่ำกว่า 8.5% ของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง หากคำนวณจาก 29 ธนาคารที่ให้บริการในประเทศไทยจะพบว่ามีเงินกองทุนทั้งสิ้น 3 ล้านล้านบาท คิดโดยเฉลี่ยกลม ๆ ตกธนาคารละ 100,000 ล้านบาท หากลงทุนใน Cryptocurrency ได้ไม่เกิน 3% ธนาคารแต่ละแห่งอาจลงทุนใน Cryptocurrency ได้ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดของตลาดคริปโทฯ ที่ขณะนี้กำลังเติบโตอย่างมาก เพราะอย่าง "บิทคับ" เอง ซึ่งกลายเป็นยูนิคอนที่มีมูลค่าธุรกิจเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 33,000 ล้านบาทไปแล้ว

ครั้งนี้หากธนาคารไม่ได้ทำการเข้าไปลงทุนเอง แต่ใช้บริษัทลูก หรือ Holding ในการเข้าซื้อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างกรณี SCB ที่จะทำการซื้อหุ้น Bitkub ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเข้าลงทุน 51% เช่นนี้แล้วจะถือว่าเข้าเกณฑ์ที่ ธปท.ประกาศหรือไม่ ต้องรอติดตามกัน

*Time Magazine ประกาศรับ Ape Coin อะไรจะมาแรงขนาดนี้!!

ล่าสุด Vitalik Buterin ที่เป็นผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ขึ้นปกนิตยสาร Times ที่เป็นนิตยสารระดับโลก หลังจากนั้นไม่นาน Times ที่เคยประกาศรับชำระค่าสมาชิกด้วยเหรียญ Crypto อยู่แล้วก่อนหน้านี้ ก็ได้ประกาศรับเหรียญ Ape Coin ซึ่งเป็นเหรียญของ Bored Ape Yacht Club เพื่อชำระค่าสมาชิกได้

เหรียญ Ape Coin คือเหรียญที่ได้จากกด Claim เหรียญเมื่อซื้อ NFT ของ Bored Ape Yacht Club นั่นเอง ล่าสุดก็แอบเห็น Kim DeFi Daddy ของเราแอบกดซื้อไปเหมือนกันเบา ๆ กว่า 10 ล้านบาท งานนี้ Kim DeFi Daddy น่าจะได้สมัครนิตยสาร Times อ่านไปอีกนาน

ทั้งนี้ เหรียญ Ape Coin สามารถเทรดได้ที่ Bitazza

และในขณะที่บ้านเรามีการแบนคริปโทฯ ไม่ให้นำมาใช้เป็น Means of Payment แต่นิตยสาร Times ก็เปิดรับใช้คริปโทฯจ่ายค่าสมาชิก

'MFC' ชูกองทุนเปิด 'MGMVOL' ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีความผันผวนต่ำ ลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว เปิดขาย IPO 25 มี.ค. - 1 เม.ย. นี้

ปัจจุบันนักลงทุนทั่วโลกเผชิญกับสภาวะตลาดทุนที่มีความผันผวนสูงอันเกิดจากหลายปัจจัยเช่น การระบาดของโควิด-19 และการกลายพันธุ์ ปัญหาการติดขัดด้านอุปทานทั่วโลก ความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลสำคัญให้ธนาคารกลางมีนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น หรือ ปัญหาความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ รัสเซีย-ยูเครน และ สหรัฐฯ-จีน-ไต้หวัน เป็นต้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศจากการลงทุนทั่วทุกมุมโลก ได้มองเห็นโอกาสแห่งการลงทุนผ่าน กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกล. มินิมั่ม โวลาติลิตี้ หรือ MGMVOL ที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีความผันผวนต่ำ ลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนในช่วงตลาดขาลง และให้ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีตลาดในช่วงตลาดขาขึ้น

คุณธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เผยว่า MFC มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าดัชนีหุ้นโลกและมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้สภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน ปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตามปัจจัย จึงเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีความผันผวนต่ำ (Minimum Volatility) เป็นที่มาของการจัดตั้งกองทุน MGMVOL ผ่านการลงทุนใน iShares MSCI Global Min Vol Factor ETF ซึ่งมีความน่าสนใจเพราะ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มผันผวนสูงขึ้น ซึ่งอาจไม่สามารถสร้างผลตอบแทนตามที่นักลงทุนคาดหวังได้ การลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำสามารถลดความผันผวนและเพิ่มประสิทธิภาพของพอร์ตโดยรวม นอกจากนี้หุ้นกลุ่ม Minimum Volatility มีโอกาสให้ผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานทางการเงินที่ดี มีแนวโน้มในการเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคต กองทุน MGMVOL จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนระยะยาว แต่ยังมีความกังวลเรื่องความผันผวนระยะสั้น

มุมมองต่อตลาดหุ้นต่างประเทศที่สนับสนุนให้ MGMVOL ได้แก่ 1) คาดว่าตลาดหุ้นยังมีความผันผวนสูง โดยมีปัจจัยหลักจากอัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูงไปอีก 6-12 เดือน ขณะที่ปัจจัยชั่วคราวเช่นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะคลี่คลายลงในที่สุด 2) คาดว่า ความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากปัจจัยขั้นต้นกดดันให้มีการปรับลดประมาณการของอัตรากำไรต่อหุ้น ของดัชนีตลาดหุ้นโลก 3) คาดว่า อัตราเติบโตของกำไรต่อหุ้นเป็นปัจจัยขับเคลื่อนผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้น ในปีนี้ 4) คาดว่า ในระยะสั้นอัตราผลตอบแทนของหุ้นในสามกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อ หรือ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ กลุ่มพลังงาน Energy กลุ่มธนาคารพาณิชย์

กลุ่มสุขภาพ และสาธารณสุข (ลงทุนเชิงป้องกัน ในช่วงเศรษฐกิจเติบโตสูงสุด) 5) คาดว่า ในระยะกลางอัตราผลตอบแทนของหุ้นในกลุ่มธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจะสูงกว่ากลุ่มธุรกิจอื่น

กองทุน MGMVOL มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) คือ iShares MSCI Global Min Vol Factor ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม กองทุนหลัก เป็นกองทุน ETF ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2011 มุ่งให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI All Country World Minimum Volatility Index ซึ่งประกอบด้วยหุ้นทั้งในตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ เช่น VERIZON COMMUNICATIONS INC ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารชั้นนำของโลก, ROCHE HOLDING PAR AG บริษัทยาและเวชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, NESTLE SA ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก, WASTE MANAGEMENT INC ให้บริการด้านจัดการขยะและรีไซเคิลที่ใหญ่ที่สุดใน US หรือหุ้น NEWMONT บริษัทเหมืองแร่ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นต้น ซึ่งหุ้นเหล่านี้มีลักษณะความผันผวนต่ำ หรือราคามีความสัมพันธ์กันน้อย เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโดยรวม ทำให้พอร์ตการลงทุนมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกล. มินิมั่ม โวลาติลิตี้ หรือ MGMVOL เป็นกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ ประเภท Feeder Fund ไม่กำหนดอายุโครงการ เงินทุนโครงการ 2,000 ล้านบาท มีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล ความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 6 จะเปิดให้จองซื้อ IPO ระหว่างวันที่ 25 มี.ค. - 1 เม.ย. 65 นี้ มีขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกเพียง 1,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง หรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน อาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก ขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 สาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014-16 สาขาเชียงใหม่ โทร. 0-5321-8480-82 สาขาระยอง โทร. 033-100-340 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 - 25 หรือที่ www.mfcfund .com

TACC เสิร์ฟเครื่องดื่ม'มะม่วงมะยงชิด'เติมความสดชื่นรับซัมเมอร์ ส่งตรงถึง 7-Eleven ทุกสาขาทั่วไทยดันยอดขายโตต่อเนื่อง


TACC ท้าให้ลอง! เครื่องดื่มมะม่วงผสมมะยงชิด รสชาติเปรี้ยวอมหวานที่มาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ไทย เติมความสดชื่นรับซัมเมอร์นี้ มีให้เลือก 3 เมนู 'อเมริกาโน่มะม่วงมะยงชิด-มะม่วงมะยงชิดโยเกิร์ตทวิสต์-ชามะม่วงมะยงชิด' ส่งตรงถึง 7-Eleven ใน All Cafe ทุกสาขาทั่วไทย ดีเดย์ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา มั่นใจช่วยกระตุ้นยอดขายครึ่งปีแรกโตต่อเนื่อง

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้พัฒนาสินค้าใหม่เครื่องดื่มมะม่วงมะยงชิดออกสู่ตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 1-2 ของปีนี้ ต้อนรับอากาศร้อนช่วงซัมเมอร์ ใน 7-Eleven All Cafe ทุกสาขาทั่วไทย โดยมีแผนจะเปิดตัวในวันที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา มีให้เลือกถึง 3 เมนู ประกอบด้วย อเมริกาโน่ มะม่วงมะยงชิด 22 0z. ราคา 50 บาท ชามะม่วงมะยงชิด 22 0z. ราคา 45 บาท และมะม่วงมะยงชิดโยเกิร์ตทวิสต์ 16 0z. ราคา 40 บาท

ทั้งนี้ อเมริกาโน่มะม่วงมะยงชิด เครื่องดื่มเมนู ใหม่ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างรสชาติเปรี้ยวอมหวานที่มาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์จากผลไม้มะม่วงและมะยงชิด ผสานกับรสชาติเข้มข้นของกาแฟ ทำให้ได้เครื่องดื่มรสชาติกลมกล่อม หอมอร่อย ถูกใจสายกาแฟแน่นอน

มะม่วงมะยงชิดโยเกิร์ตทวิสต์ สมูทตี้มะม่วงผสมมะยงชิด เป็นการผสมผสานที่ลงตัวได้เป็นเครื่องดื่มรสชาติเข้มข้นเปรี้ยวอมหวาน พร้อมกลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ ปั่นเข้ากับโยเกิร์ตธรรมชาติ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่ม พร้อมช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารและช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น

ชามะม่วงมะยงชิด เครื่องดื่มชามะม่วงผสมมะยงชิดรสชาติเปรี้ยวอมหวานมาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ผสานกับน้ำชาที่สกัดจากใบชาชงสดรสนุ่มละมุนลิ้น ให้รสชาติอร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัวมอบความสดชื่นได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับอากาศร้อนช่วงซัมเมอร์ได้เป็นอย่างดี

'มั่นใจว่าการเปิดตัวเครื่องดื่มมะม่วงมะยงชิด รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ที่มาพร้อมกับความหอมเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ไทย ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่ม และมอบความสดชื่นได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับอากาศร้อนในช่วงซัมเมอร์นี้เป็นอย่างดี จะช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่มใน 7-Eleven เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้แนวโน้มรายได้ในปีนี้เติบโต 10-15% ตามเป้าหมาย และ TACC พร้อมเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งในส่วนของพันธมิตรทางการค้าและกลุ่มลูกค้า B2C' นายชัชชวีกล่าวในที่สุด

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้  25, 2022

ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกล. (S&P Global) ระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังถูกกระทบ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทานรอบใหม่ หลังจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนทำให้ต้นทุนพลังงานพุ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเอสแอนด์พี โกล.ทำการสำรวจดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนได้เริ่มส่งผลกระทบต่อยูโรโซน

-- นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและกลุ่มนาโตจะตอบโต้ "อย่างสาสม" หากรัสเซียใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในการโจมตียูเครน

นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังแสดงท่าทีสนับสนุนให้ไล่รัสเซียออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม G20 ด้วย

-- องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ประกาศเมื่อวานนี้ (24 มี.ค) เกี่ยวกับคำแนะนำให้ใช้ยา "เอวูเชลด์" (Evusheld) ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่ยุโรปกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น และอัตราการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ที่ไม่คืบหน้า

-- บรรดาผู้นำของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมทั้ง 7 (G7) ได้ให้คำมั่นเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ว่า กลุ่ม G7 จะคอยจับตาดูความพยายามของประเทศใด ๆ ที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือรัสเซียให้หลบเลี่ยงการคว่ำบาตรได้ ซึ่งถือเป็นการส่งคำเตือนไปยังประเทศอื่น ๆ อาทิ จีน ที่อาจพยายามส่งความช่วยเหลือให้กับรัสเซีย

-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเร่งกำหนดกรอบการใช้กฎระเบียบควบคุมสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อป้องกันไม่ให้สกุลเงินดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านการเงินเป็นวงกว้าง

-- รัสเซียกำลังพิจารณารับชำระเงินค่าน้ำมันและก๊าซเป็นบิตคอยน์ เนื่องจากเผชิญการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จากบรรดาประเทศตะวันตกจากกรณีที่เข้ารุกรานยูเครน

-- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมจัดการประชุมอย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.)

-- การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 ลงมาอยู่ที่ 2.6% จากเดิมที่ 3.6% เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย และการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของประเทศต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

-- นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีปฏิเสธที่จะเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินรูเบิลในการชำระค่าก๊าซธรรมชาติให้กับรัสเซียตามที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียประกาศไว้

-- ผู้ออกกฎหมายของยุโรปได้ตกลงที่จะออกกฎหมายใหม่ในชื่อกฎหมายตลาดดิจิทัล (Digital Market Act หรือ DMA) เพื่อควบคุมการมีอำนาจเหนือตลาดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างยาวนานว่าบริษัทเหล่านี้ใช้อำนาจเหนือตลาดจนทำให้บริษัทรายเล็กกว่าแข่งขันด้วยไม่ได้

-- กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) ว่า โรสมอนต์ เซเนกา กองทุนเพื่อการลงทุนที่ปัจจุบันดูแลโดยนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ได้จัดสรรเงินทุนให้กับโครงการชีวภาพทางทหารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐในยูเครน

-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) ของสหรัฐได้เตือนบริษัทโบอิ้ง โคเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า เครื่องบินรุ่น 737 MAX อาจไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัยก่อนเส้นตายที่สภาคองเกรสกำหนดไว้

-- บริษัทเทเลนอร์ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารโทรคมนาคมของนอร์เวย์ ประกาศขายธุรกิจในเมียนมาเป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว โดยบริษัทที่ซื้อจะจ่ายเงินให้กับเทเลนอร์เป็นเวลา 5 ปี

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกงฮั่งเส็งปิดลบ 208.13 จุด ตามทิศทางดาวโจนส์
 
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันพุธ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการประชุมผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อวางแผนกดดันรัสเซียให้ยุติการโจมตียูเครน

ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 21,945.95 จุด ลดลง 208.13 จุด หรือ -0.94%

ทั้งนี้ นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต เปิดเผยในวันพุธ (23 มี.ค.) ว่า ในการประชุมสุดยอดนัดพิเศษของสมาชิกนาโต ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นนั้น บรรดาผู้นำนาโตเตรียมเรียกร้องให้จีนหลีกเลี่ยงการสนับสนุนให้รัสเซียรุกรานยูเครน